วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เลือกเลนส์มือสอง..ยังไง!!

เรื่องนี้ก็เกิดจากอาการอยากได้เลนส์ แต่งบไม่ถึง แต่ก็อยากได้ๆๆๆๆ อ๊ะ! ลองมองมือสองดูหน่อยดีไหมหว่า แล้วจะเลือกเลนส์ยังไงเนี่ย ลอง search ดูหน่อยดีกว่า เค้าดูกันยังไง และแล้วก็เจอว่าเค้าดูกันยังไง เลยเก็บมาใส่ blog ไว้ดูหน่อยดีก่า....
บทความนี้ เครดิตให้ คุณ Joel จาก
สิ่งแรกที่ดูก็คือผิวเลนส์
เลนสที่มีร่องรอยบน ผิวหน้าแบบนี้ทั้ง ชิ้นหน้า-ชิ้นหลัง
หากเห็นเส้นใยๆนวลขาวแบบนี้ก็เอาตัวนี้เก็บคืนไปได้เลย (ตังค์ก็ยังอยู่ในกระเป๋าเหมือนเดิม)
ถ้าไม่เห็นชัดๆ ก็ลองยกเลนส์ขึ้นมาเล็งให้กับแสงไฟหรือหลอดไฟที่สว่างๆ
แล้ว ก็ส่อง-หมุน- ส่อง-หมุน-ส่อง-หมุนกระบอกเลนส์ไปรอบๆ
กวาดสายตาดูใน กระบอกเรือนเลนส์จากด้านนอกขอบเลนส์ ไปตรงกลางด้านในใจกลางเลนส์
ควรหมุนดูไปรอบๆเพราะเชื้อราจะเริ่มขึ้นจากขอบๆรอบนอกเลนส์ แล้วลามเข้าไปด้านในกลางผิวเลนส์
ต่างกับฝ้าที่มักจะเกิดตามขอบ แล้วลามไปตามขอบจนรอบเลนส์ แล้วจึงเข้าหาตรงกลางเลนส์
ฝ้ายังพอจัดการแก้ไขได้ แต่ถ้าเป็นเชื้อราก็ล้างยากเพราะต้องลอกโค้ทติ้งเคลือบผิวหน้าเลนส์ทิ้งอย่างเดียว

เลนส์ที่มีเชื้อราบนผิวเลนส์ ซึ่งเกิดจากความชื้นในเลนส์จะมีลักษณะแบบนี้
แล้วก็ยังมีเชื้อราบนผิวเลนส์ ภายในเลนส์อีก
เวลา ส่องกับแสงสว่าง หรือ ใช้ไฟฉายเล็กๆส่องกวาดดู จะมีลักษณะแบบนี้ (ดูยึ๋ยๆเหมือนกันนิ)
ตอนนี้ก็หันมาดูหน้าตาหรือโค้ทติ้งกันบ้าง
วิธีดู ก็ให้ตั้งเลนส์ตรงๆกับที่สว่างๆ แล้วเอียงเส้นสายตาให้ทำมุมประมาณ 45 องศาเฉียงกับหน้า ดูแสงสะท้อนที่ออกมาจากผิวเลนส์ ดูว่าเฉด หรือ เหลือบสีทั่วทั้งผิวหน้าเลนส์
แล้วสะท้อน ออกมาสม่ำเสมอ ดีหรือไม่
ก็ลองสังเกตุดูแสงสะท้อนที่ออกมาจากผิวเลนส์ พร้อมกับ หมุนตัวเลนส์ไปช้าๆ
เอาตัวหนังสือเป็นหลักจำไว้ก็ได้

เลนส์ที่โค้ทติ้งดี สวยๆ ไม่ว่าจะหมุนอย่างไร แสงและสีที่สะท้อนออกมาจากผิวเลนส์จะต้อง ให้เหลือบสีเหมือนกันเสมอ

ในภาพสังเกตตำแหน่งตัวหนังสือที่ขอบ เลนส์ และสีของแสงที่สะท้อนออกมาน่ะ
ที่นี้ก็มาดูตรงท้ายเลนส์กันบ้าง เขี้ยวล็อคเป็นไง สภาพยัง ok อยู่ไหม เพราะหากเขี้ยวล็อคเลนส์หลวมคลอน ก็จะยึดกับกล้องได้ไม่แน่น
ดังนั้นควรมีกล้องที่ไปลองด้วย ลองดูว่าใส่แล้วแนบสนิทกับบอร์ดี้ไหม ช่องว่างเสมอหน้าแปลนกล้องไม่เบี้ยว ขยับไม่ได้

แล้วเลนส์ผ่านการใช้งานมาสมควร สีดำเคลือบหลุดลอกออกไปบ้าง
แต่เลนส์ใช้งานมาบ้าง มักจะดีกว่าเลนส์เก็บไม่ค่อยใช้งาน

ขั้นนี้ก็ลงลึกไปนิดหน่อย ดูพวกกลไกของเลนส์กันบ้าง
หากเป็น เลนส์ nikon รุ่นที่ยังมีแหวนปรับรูหน้ากล้องอยู่ท้ายเลนส์ก็ตรวจดู
1. สวิชท์ L สำหรับล้อคค่ารูหน้ากล้องที่แคบที่สุด ทำงานได้คล่องไม่ติดขัด
2. สวิชท์ L สำหรับล้อคค่ารูหน้ากล้องที่แคบที่สุด จะทำงานได้ก็ต้องเมื่อเปิดรูหน้ากล้องที่แคบที่สุดของเลนส์เท่านั้น จะใช้กับค่ารูหน้ากล้องอื่นไม่ได้
3. หรี่รูหน้ากล้องแคบสุดแล้ว สวิชท์ L จะไม่ขยับอีก
4. ส่องดูในเลนส์ว่ารูหน้ากล้องปิดแคบสุดจริง (แต่รูจะต้องไม่ปิดสนิท ต้องเหลือนิดหน่อย)
5. ดูกลีบใบจักรปิดรูหน้ากล้องว่าสะอาดไม่มีคราบสนิมหรือ น้ำมันจับหรือรอยขีดข่วน
6. ลองปลดล้อค สวิชท์ L แล้วค่อยๆหมุนแหวนเปิดรูหน้ากล้องที่ละคลิกสต้อป แต่ละสต้อปต้องหยุดแบบนิ่งกึก ไม่คลอนแคลน
7. ส่องดูในเลนส์ทีละสต้อปว่า รูหน้ากล้องที่ค่อยๆเปิดได้สมมาตรสม่ำเสมอเป็นวงสวยไม่มีติดเป็นขยัก
8. ทำแบบเดียวกันนี้ ซัก 2 ครั้ง


9. เอาเลนส์ใส่กล้องที่มีระบบช่วยถ่ายภาพ
ปรับไป ที่โหมด S ตั้งความเร็วตั้ง 1/2 วินาทีจนถึง 1/15 วินาที แล้วกดชัตเตอร์ แล้วตรวจดูขนาดรูหน้ากล้อง รูหน้ากล้องควรจะปิดเปิดไม่เท่ากันในแต่ละความเร็ว

10. หากเป็นกล้องเก่าๆ FM, FE ไม่มีโหมด S ก็ใช้ปุ่มเช็คระยะชัดลึกในกล้องหรือ โหมด A แทนก็ได้
คือเมื่อกดแล้ว แสงหรือภาพที่เห็นในช่องมองภาพควรจะมืดหรือสว่างตามลักษณะรูหน้ากล้องที่ตั้งเอาไว้

ต่อมาพอตรวจดูกลไกว่าทำงานได้เรียบร้อยแล้ว เราก็มาตรวจดูเลนส์ว่าเคยโดนถอดมาหรือไม่
วิธีตรวจดูก็เอานิ้วลูบที่หัว สกรูกากบาทท้ายเลนส์ ถ้าเลนส์ซิงๆ ควรจะราบเรียบไม่สะดุดระคายนิ้ว
หัวน็อตสะอาด ความลึกฝังจมลงไปเท่าๆกันทุกหัว

หากไม่ได้เอาหลูป loupe ไปส่องก็เอา เลนส์ที่มีในร้าน หรือ ใกล้ๆมือ กลับเลนส์ ส่องดูไปพลางๆก่อนก็ได้จ๊ะ
จากนั้นก็ตรวจดูสภาพภายนอกอื่นๆเช่น
1. ร่องเกลียวฟิลเตอร์หน้าเลนส์ว่ายังใช้ได้ เกลียวไม่หวานรูด จนใส่ฟิลเตอร์ไม่ได้
2. ตัวหนังสือ เครื่องหมายต่างๆไม่เลอะเลือน
3. เขย่าเลนส์แล้ว ไม่มีเสียงดังกุกกักอยู่ข้างใน
4. ลองปรับโฟกัสแล้ว สเกลบอกระยะทางตรงกันกับที่เขียนบอกไว้ข้างกระบอกเลนส์
5. หากมีคอลล่าร์ รูเกลียวใส่ขาตั้งใต้คอลล่าร์เกลียวสะอาดไม่หวานรูด
6. หากคอลล่าร์มีน้อตปรับตำแหน่งกล้องเป็นแนวตั้งได้ น้อตยึดก็สามารถจับกระบอกเลนส์ได้แน่ ไม่หวานรูด
7. แหวนปรับซูม/โฟกัสหมุนได้คล่อง ไม่สะดุดหมุนเกินจนเลยสุดระยะโฟกัสไปมากนัก
8. แหวนซูมและแหวนโฟกัสไม่เลื่อนหน้าถอยหลัง (ยกเว้นเลนส์ซูฒแบบแหวนเดี่ยว)
9. ขอบยางต่างๆ ตะเข็บไม่ปริแตก หรือ ลอก และลายพิมพ์บนยางยังมีสันคมอยู่
10. สีเลือนลางไปตามการใช้งานได้ แต่ไม่ควรมีรอยบุบ หรือ ถลอกนะ

ประการสุดท้าย ตรวจดูว่าเลนส์ที่จะซื้อมีอะไรมาให้บ้าง เช่น คู่มือ
, ฝาปิดหน้า, ฝาปิดหลัง, กล่องใส่เลนส์ หรือเลนส์บางรุ่นจะมีของแถมมา ให้ในกล่องครบชุดให้ด้วยเช่น ฮูดกระบังแสง, กระเป๋าใส่เลนส์, หรือแม้แต่ฟิลเตอร์
แต่ก่อนจะนัดดูเลนส์ ก็ลองไปหาของใหม่ รุ่นเดียวกับที่เราจะซื้อมือสองก่อนสักหน่อย จะได้รู้ว่ามันเหมาะกับที่เราต้องการไหม
สรุปว่าควรตรวจสอบ
1. ผิวเลนส์ ว่าเลนสที่มีร่องรอยบนผิวหน้าเลนส์ทั้ง ชิ้นหน้า-ชิ้นหลัง
2. เชื้อราบนผิวเลนส์ ภายในเลนส์
3. โค้ทติ้งของเลนส์ว่ายังสวย แสงและสีสะท้อนให้เหลือบสีเสมอ เหมือนกัน
4. ดูเขี้ยวล็อคตรงท้ายเลนส์ไม่หลวมคลอน และยึดกับกล้องแน่นดีอยู่
5. รูหน้ากล้องควรจะปิดเปิดดี และปิดเปิดไม่เท่ากันในแต่ละความเร็ว
ุ6. ตรวจดูเลนส์ว่าเคยโดนถอดมาหรือไม่
7. ตรวจดูสภาพภายนอกอื่นๆ ว่ายังสภาพใช้ได้อยู่
8. ดูว่ามี คู่มือ, ฝาปิดหน้า, ฝาปิดหลัง, กล่องใส่เลนส์ให้ด้วยไหม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น